วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

THAMMA

"ธรรมะเตือนจิต ข้อคิดเตือนใจ" "ธรรมะก่อนนอน ธรรมะสู่ดวงใจ"29/6/2554
1.ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเหมือนว่าจะตายวันพรุ่งนี้ และเรียนรู้เหมือนไม่มีวันตาย
2.ดาบไม่เคยฆ่าใคร มันเป็นเพียงแค่โลหะในมือคน
3.ดิกชันนารี เป็นที่ที่เดียวซึ่งคำว่า “SUCCESS” จะมาก่อนคำว่า “WORK”
4.ตัดสินใจว่าไม่เลือก ถือว่าเป็นทางเลือกอย่างหนึ่ง
5.จะก้าวกระโดดได้ไกลขึ้น คุณต้องถอยหลังก่อน
6.ถนนสู่ความสำเร็จมักขุดซ่อมกันทั้งปี
7.ทองคำแค่หนึ่งสลึงที่หล่นหายอาจเอากลับคืนมาได้ แต่เวลาแม้วินาทีเดียวที่หายไปคงไม่มีทางเอากลับมาได้แน่
8.ทะเยอทะยาน คือ ความเกียจคร้านที่ถูกทลาย
9.การทำถูก ใช้เวลาน้อยกว่าเวลาที่ใช้แก้ตัวตอนทำผิด
10.การให้เงินกับคนจนจะทำให้เอาอิ่มแค่วันเดียว แต่ถ้าสอนวิธีหาเงินจะทำให้เขาอิ่มตลอดไป
11.เทียนไม่มีวันดับ หากมันสามารถจุดเทียนเล่มอื่นให้สว่างต่อไปได้
12.เป่าเทียนของคนอื่นให้ดับ ไม่ทำให้เทียนของคุณสว่างมากขึ้
13.การเปิดใจ ไม่จำเป็นต้องเปิดปากเสมอไป
14.นาฬิกาหนึ่งเรือนทำให้รู้เวลา แต่ถ้าสองเรือนกลับทำให้ไม่แน่ใ
15.น้ำหยดหนึ่งอาจดูด้อยค่าเมื่ออยู่ในมหาสมุทร แต่มหาสมุทรคงจะมีน้ำน้อยลงแน่ถ้าขาดหยดนั้นไป
16.นิสัย เป็นสิ่งที่เราทำขึ้นมาในตอนแรก แต่ตอนหลังมันจะเป็นฝ่ายทำเรา
17. “นิสัยเสีย” สามารถซ่อมได้โดยใช้ “ความตั้งใจ” เป็นอะไหล่
18.บางสิ่งของชีวิตไม่จำเป็นต้องจำ ถ้ามันทำให้เจ็บ แต่บางสิ่งก็ควรจะเก็บ ถ้ามันเป็นความเจ็บที่น่าจำ
19.การออกกำลังกายที่ดีต่อหัวใจ ทำได้โดยก้มตัวแล้วช่วยให้คนอื่นลุกขึ้นมา
20.ชีวิตนี้สั้นนัก เกิดมาทั้งทีเร่งทำความดีให้สุดเเรง เพราะวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายในชีวิตเรา

สว่างตาด้วยเเสงไฟ สว่างใจด้วยเเสงธรรม....ธรรมะสู่ดวงใจ 29/6/2554


อ้างอิงจาก: ธรรมะสู่ดวงใจ

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"มานะ"

 
‎"การแสดงออกของมานะ (แบบตรง ๆ และแบบเนียน ๆ)"

มานะนั้นแสดงอาการได้หลายอย่าง อย่าง...หยาบๆ ก็คือ เย่อหยิ่ง จองหอง ถือตัว ดูถูกคนอื่น รวมทั้ง อวดเก่ง อวดเบ่ง อวดดี อวดฉลาด ขี้โม้ อวดรวย อวดสวย อวดหล่อ อาการอวดเหล่านี้ใช่มานะทั้งนั้น ลักษณะที่เราอวดรวยเช่น ใช้นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือขับรถเบนซ์ หรือรถสปอร์ตราคาแพง ใช้กระเป๋าหลุยส์วิตตอง เป็นต้น คำว่าอวดแทบทุกตัวมันมาจากกิเลสคือมานะ มีทั้งการแสดงออกแบบดิบๆ โฉ่งฉ่าง หรือเนียนๆ ถ้าแบบเนียนๆ ก็เช่น นักปฏิบัติธรรมบางคนชอบสร้างภาพว่าฉันสงบ สมถะ เรียบร้อย อันนี้เน้นเรื่องการสร้างภาพ เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าฉันเหนือกว่าเธอ ฉันดีกว่าเธอ เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าฉันไม่อวดเบ่งแล้วฉันปลอดภัยจากกรงเล็บของมานะ นั่นไม่ใช่

นอกจากความเย่อหยิ่ง จองหอง ดูถูก อวดเก่ง สร้างภาพแล้ว มานะยังแสดงอาการอย่างอื่นได้อีกเช่น ความภาคภูมิใจ เกิดความมั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่า ฉันแน่ ฉันเก่ง ฉันวิเศษ จนถึงขั้นหลงตัวลืมตน ที่จริงความภาคภูมิใจก็มีประโยชน์เหมือนกัน ไม่ใช่มีโทษอย่างเดียว เช่น ทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง ไม่ใช่ว่าไร้ค่า แต่มันก็ยังเป็นกิเสลอยู่นั่นเอ

นอกจากนี้มานะยังทำให้เราไม่อยากฟังคำแนะนำจากใคร ไม่ชอบเวลามีใครตักเตือนหรือวิจารณ์ อาการแบบนี้ใกล้เคียงกับกิเลสที่ชื่อทิฏฐิ ทิฏฐิคือความใจแคบ ความยึดมั่นว่าความคิดของฉันนั้นถูก ความคิดของฉันนั้นดี ดังนั้นคนไทยจึงมักเรียก "ทิฏฐิมานะ" คู่กัน ก็เพราะว่าทั้งทิฏฐิและมานะ ทำให้เราดื้อดึง ไม่ฟังใคร อย่างไรก็ตาม ทิฏฐิกับมานะต่างกัน ตรงที่ทิฏฐิเป็นความยึดมั่นในความเชื่อของตน ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง ส่วนมานะนั้นเป็นความยึดมั่นในอัตตาตัวตน คือยึดมั่นว่าฉันเก่ง ฉันแน่ ฉันถูก ก็เลยไม่ยอมฟังคำวิจารณ์

ความรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นเขาดีกว่า เก่งกว่า สวยกว่า เคร่งกว่า ปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้ากว่าเรา อันนี้ก็มาจากตัวมานะ เพราะมาจากความยึดมั่นถือมั่นว่า ฉันต่ำกว่าเขาไม่ได้ แม้เสมอเขายังไม่ได้เลย ฉันต้องสูงกว่าเขา คำว่าสูงนั้น แต่ละคนให้ความหมายไม่เหมือนกัน บางคนหมายความถึงการมีอำนาจ ความรู้ ความสวย ความเด่นดังมากกว่า หรือมีสถานภาพสูงกว่า ความรู้สึกยึดมั่นสำคัญหมายว่าฉันต้องสูงกว่า ฉันด้อยกว่าไม่ได้ อันนี้เกิดจากกิเลสที่ชื่อมานะ

มานะยังหมายถึงการกลัวเสียหน้า เวลาโต้แย้งกับใคร หรือว่าทำอะไรผิด ทั้ง ๆ ที่ก็รู้นะว่าเราผิดพลาดไป แต่เราก็ไม่กล้ายอมรับผิด หรือไม่กล้าขอโทษ โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายนั้นมีสถานะต่ำกว่าเรา เช่น เราคิดว่าลูกโกหก ก็เลยต่อว่าลูก ภายหลังมารู้ว่าลูกไม่ได้โกหก เราเข้าใจผิดไปเอง แต่เราดุลูกไปแล้ว เราเคยมีความรู้สึกอยากจะขอโทษไหม แล้วขอโทษหรือเปล่า หรือบางครั้งเราต่อว่าลูกน้องอย่างรุนแรง ภายหลังรู้ว่าเราด่าผิดคน เรารู้สึกผิด อยากจะขอโทษ แล้วเรากล้าขอโทษเขาหรือเปล่า บางครั้งเรารู้ว่าผิดแต่ไม่กล้าขอโทษ ความไม่กล้านั้นก็มาจากความกลัวเสียหน้า จริงอยู่เราอาจมีเหตุผลว่า ถ้าเราขอโทษแล้วลูกน้องจะเหลิง ได้ใจ ทำให้เราปกครองลูกน้องได้ยาก ก็เลยคิดว่าอย่าขอโทษเลย แต่นั่นเป็นเหตุผลลวง เหตุผลที่แท้จริงคือเรากลัวเสียหน้า

เราเห็นกิเลสตัวนี้ไหม หลายคนไม่เห็นเพราะถูกบดบังด้วยเหตุผลที่ปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อทำให้เรารู้สึกว่า การขอโทษนั้นไม่ดี ทำให้เราเป็นผู้นำที่อ่อนแอ เป็นการเปิดช่องให้คนอื่นเล่นงานเรา แต่ที่จริงแล้วมันมาจากกิเลสส่วนลึก นั่นคือมานะ คือความกลัวเสียหน้า อย่าว่าแต่คนรับใช้หรือลูกน้องเลย แม้กระทั่งกับพ่อแม่ บางทีเราก็กลัวเสียหน้า ไม่กล้าขอโทษเมื่อทำผิดกับท่าน อาตมาเคยทะเลาะกับพ่อตอนที่เป็นฆราวาส ต่อมารู้สึกว่าตัวเองผิด แต่ไม่กล้าขอโทษ อันนี้เกิดจากมานะ ต้องรวบรวมความกล้าอยู่นาน จึงจะกล้าไปขอโทษพ่อได้ จะเห็นว่ามานะนั้นแทรกซึมอยู่ในพฤติกรรมทั่วๆ ไป แสดงอาการออกมาหลายรูปแบบ ทั้งแบบดิบ แบบเนียน ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
ดูเพิ่มเติม
เป็นศิษย์พระอาจารย์ ไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวจน ไม่กลัวหมดตัว ไม่กลัวเหลือตัวคนเดียว

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

GEOSPATIAL TECHNOLOGY

เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศGIS -- ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์หรือ GIS เป็นเทคโนโลยีที่มีวิธีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในการที่เราผลิตและการใช้แผนที่ที่จำเป็นในการจัดการชุมชนและอุตสาหกรรม GIS เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถจับภาพและจัดเก็บวิเคราะห์และแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์อ้างอิง; นั่นคือ, ข้อมูลที่ระบุตามสถานที่ตั้ง ผู้ประกอบการยังกำหนดระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เป็นรวมทั้งวิธีการที่บุคลากรการดำเนินงานและข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เข้าสู่ระบบ GIS การสร้างแผนที่สุดอัจฉริยะที่ผ่านการวางแผนที่ซับซ้อนและการวิเคราะห์สามารถดำเนินการได้สัมผัสของปุ่ม
ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์สามารถใช้สำหรับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติเช่นป่าไม้
, การเกษตรและเหมืองแร่ของรัฐบาลประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมการวางแผนเมือง, ที่ดินครอบคลุมและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการบังคับใช้กฎหมายสำรวจน้ำมันและก๊าซ, ข้อมูลสำมะโนประชากร, เส้นทาง การวางแผนและภัยธรรมชาติ 
นานมาแล้วเมื่อแผนที่ถูกต้อง
, draftspersons, ภูมิศาสตร์และลูกเรือของนักสำรวจที่จะรวมทรัพยากรของพวกเขาและการพัฒนาแผนที่บนกระดาษ วันนี้ก็สามารถวาด (raster - to - - vector แปล) บนหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยใช้คอมพิวเตอร์ร่าง (CAD), ArcMap, ArcGIS หรือการทำแผนที่โปรแกรมซอฟต์แวร์อื่น ๆ โปรแกรมจะเชื่อมต่อจากนั้นไปฐานข้อมูลที่มีความหลากหลายของข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับรายการบนแผนที่ การปรับปรุงจะทำอย่างรวดเร็วและสะดวก แผนที่ทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนของมันอาจจะเลือกที่จะพิมพ์บนล็อตเตอร์
ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่จะ
GIS เป็นความสามารถในการร่วมกันแผนที่ หน่วยงานของรัฐและรัฐบาลกลางพร้อมด้วย บริษัท ยูทิลิตี้ซึ่งสร้างแผนที่ของตนเองตามลำดับสามารถยกตัวอย่างเช่นหุ้นแผนที่กับแต่ละอื่น ๆ นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่มีความสามารถในการสร้างหลายร้อยแผนที่ใหม่จำนวนมากที่ไม่เคยมีอยู่ก่อนสำหรับค่าใช้จ่ายน้อยSCADA (การควบคุมตรวจตราและเก็บข้อมูล) เป็นประเภทของโปรแกรมประยุกต์ซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์และการควบคุมกระบวนการการรวบรวมข้อมูลในเวลาจริงจากสถานที่ห่างไกลเพื่อควบคุมอุปกรณ์และเงื่อนไข SCADA ที่มีการใช้ในโรงไฟฟ้
​​าเช่นเดียวกับในน้ำมันและการกลั่นก๊าซน้ำการสื่อสารโทรคมนาคม, การขนส่ง, และกากของเสียและเขตข้อมูลโครงสร้างพื้นฐาน / การควบคุมรัฐบาล
ตัวอย่างเช่น บริษัท ท่อส่งก๊าซใช้
SCADA ในภูมิภาคท
​​ี่มีข้อมูลตามเวลาจริงในการไหลของก๊าซแรงกดดันท่อส่วนที่อยู่ภายใต้การซ่อมแซม, เส้นทางท่อส่งน้ำมันทางเลือกและสถานที่และการจัดส่งของลูกเรือบริการGPS -- การบริการจาก Global Positioning
ทั่วโลกตำแหน่งระบบหรือ
GPS, เป็นเครือข่ายของดาวเทียม 24 ดวงพร้อมกับความถูกต้องแม่นยำในการวัดตำแหน่งเกียร์ telemetry ใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นทางวิทยาศาสตร์และเอกชนเพื่อกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนและใช้สำหรับการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโลก GPS ในขณะนี้เป็นเพียงการทำงานอย่างเต็มที่ระบบนำทางด้วยดาวเทียมและกำหนดสถานที่รับความเร็วและทิศทาง
รับ
GPS คำนวณตำแหน่งโดยการวัดระยะห่างระหว่างตัวเองและสามหรือมากกว่าดาวเทียมจีพีเอ อาวุธที่มีราคาไม่แพงรับ GPS, ตัวอย่างเช่นลูกเรือบริการสาธารณูปโภคจะสามารถส่งได้อย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งของสาธารณูปโภคใต้ดินในความต้องการของการซ่อมแซม และอินเตอร์เฟซของ GIS และ GPS ที่มีผลในกระแสของการใช้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง
วันนี้มีหลายพันโปรแกรมเชิงพื้นที่ในการใช้งานอยู่ องค์กรหน่วยงานและ บริษัท ทั่วโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแผนที่ที่ผลิตเองและร่วมบันทึกในฐานข้อมูลดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเครื่องมือที่ราคาไม่แพงเฉพาะกับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในระบบภูมิสารสนเทศได้กลายเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับแม้แต่องค์กรขนาดเล็กที่สุด
หน่วยงานภาครัฐพึ่งพาเทคโนโลยีนี้ในการวางแผนการพัฒนาดินแดนใหม่ให้ตรวจสอบการประเมินมูลค่าภาษีในการจัดการงานสาธารณะเครือข่ายยานพาหนะฉุกเฉินเส้นทาง
, วิเคราะห์รูปแบบการเกิดอาชญากรรมและอุบัติเหตุ, การจัดการระบบการขนส่งและการศึกษาปัญหาสิ่งแวดล้อม บริษัท โทรคมนาคมพบว่ามันเป็นคุณค่าที่พวกเขาแสวงหาการแข่งขันในการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกอาคารและในตลาดการให้บริการทางไกล บริษัท ยูทิลิตี้ใช้ในการรูปแบบเครือข่ายการกระจายคำสั่งทำงานปัญหาการจัดส่งลูกเรือบริการการตลาดเพื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและขยายแผนบริการ ธุรกิจใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งร้านใหม่และสิ่งอำนวยความสะดวกการกำหนดเป้
​​าหมายลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและการพิจารณาผลกระทบจากคู่แข่งใหม่หรือที่มีศักยภาพ
ข้อมูลส่วนใหญ่มีการจัดการโดยธุรกิจมีการเชื่อมต่ออย่างใดไปยังสถานที่เฉพาะเช่น
, ที่อยู่, ถนน, ทางแยก, หรือ"xy"ประสานงาน Geospatial เทคโนโลยีคือการหาทางลงมุมของโลกธุรกิจที่ทุกคนเพราะเทคโนโลยีเป็นที่แพร่หลายและมีความหลากหลายในตลาดภูมิศาสตร์ที่มีการเติบโตในอัตราที่มหาศาล
ดาวเทียมภาพรวมคอเปอเรชั่นภาพจากดาวเทียมและระบบดิจิตอล
orthorectified กระเบื้องเคลือบสลับสีถ่ายภาพทางอากาศที่มีเวกเตอร์สกัดและลูกค้าที่มาข้อมูลคุณลักษณะที่เดียวเพื่อสร้างภาพข้อมูลที่อุดมไปด้วยสำหรับ GIS และโปรแกรมแผนที่อื่น ๆ เพื่อให้บรรลุผลแบบหลายชั้นสำหรับหลายประเภทของการวิเคราะห์
กว่าทศวรรษของประสบการณ์ในการรับภาพจากดาวเทียมและข้อมูลอากาศ - รู้สึกที่ (
SIC) ให้ภาพจากดาวเทียมที่มีคุณภาพสูงสุดและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ รู้จากระยะไกลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) โครงการและบริการให้คำปรึกษา ดาวเทียม Imaging Corporation เป็นความพร้อมในการเจรจาต่อรองที่เหมาะสมและมีความละเอียดสูงภาพดาวเทียม, รวมทั้งเพิ่มข้อมูลภาพดาวเทียมเพื่อสร้างความถูกต้องโครงการจัดทำแผนที่โต้ตอบ
การถ่ายภาพระบบของเราข้อมูลภูมิศาสตร์ (
GIS), ระบบตำแหน่งทั่วโลก (GPS) และผู้เชี่ยวชาญด้านการ geodesy มีประสบการณ์ในการสกัด, การจัดการและเสริมภาพดาวเทียมและข้อมูลการถ่ายภาพ โครงการเหล่านี้ให้ข้อมูลอันล้ำค่าที่จะออกฤทธิ์กว้างของอุตสาหกรรมSIC สามารถใช้ได้สำหรับการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับใด ๆ ของความต้องการของโครงการของคุณหรือข้อกำหนด กรุณาติดต่อเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ฟัง

อ้างอิง: http://www.satimagingcorp.com

GIS ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

" GIS A Computerized database management system for capture storage retrieval analysis and display of spatial ( locationally defined ) data " ( NCGIA : National Center Geographic Information and Analysis,1989)

1. TYDACT เทคโนโลยีอิงค์ (1987) : ระบบสารสนเทศ"ภูมิศาสตร์เป็นแพ็คเกจซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้เพื่อสร้างและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่กับระบบดังกล่าว, แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและไดอะแกรมอธิบายธรรมชาติและที่มนุษย์ทำให้คุณสมบัติสามารถแปลเป็นรหัสอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถ ถูกเรียกคืน, แก้ไขและวิเคราะห์ ''

2. หนังสือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เบื้องต้น Edition second :"ระบบข้อมูลภูมิศาสตร์ (GIS) จะใช้ตอนนี้ generically ใด ๆ ความสามารถในคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับข้อมูลทางภูมิศาสตร์ GIS ความสามารถในคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการจัดการของข้อมูลทางภูมิศาสตร์ GIS รวมถึงไม่  ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ยังเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการป้อนข้อมูลและแผนที่ในการสร้างผลิตภัณฑ์แผนที่พร้อมกับระบบการสื่อสารที่จำเป็นในการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆ"
3. ข้อมูลจาก www.oepp.go.th : GIS คือ ระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์จัดการเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสาร ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการเสนอผลลัพธ์ข้อมูลเชิงซ้อนทั้งหมด ให้อยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ ตามต้องการ ทั้งนี้โดยอาศัยลักษณะทางภูมิศาสตร์สัมพันธ์ระหว่างข้อมูลข่าวสารต่างๆ
4. ข้อมูลจาก www.khonkaen.go.th/gis/gis8.htm : GIS หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการนำเข้าจัดเก็บจัดเตรียมดัดแปลงแก้ไข จัดการและวิเคราะห์พร้อมทั้งแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่ ตามวัตถุประสงค์ต่างๆที่ได้กำหนดไว้ดังนั้น GIS จึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เพื่อใช้ในการจัดการ และบริหารการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลด้านพื้นที่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนของข้อมูล และการผสานข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) หรือข้อมูลทุติยภูมิ(secondary data) เพื่อให้เป็นข่าวสารที่มีคุณค่า
5.ข้อมูลจาก rsgis.rs.psu.ac.th : GIS คือ ระบบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่ และเชื่อมโยงและผสมผสานข้อมูลทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย ที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล สามารถดัดแปลงแก้ไขและวิเคราะห์ และแสดงผลการวิเคราะห์ และการนำเสนอข้อมูล เพื่อให้เห็นมิติและความสัมพันธ์ด้านพื้นที่ของข้อมูล ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดความเข้าใจปัญหา และประกอบการตัดสินใจในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการวางแผนการใช้ทรัพยากรเชิงพื้นที่
6. ข้อมูลจาก www.gmt.co.th : GIS ประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ "ระบบสารสนเทศ" (Information System) และคำว่า "ทางภูมิศาสตร์" (Geographic Geographical) ระบบสารสนเทศ เป็นการปฏิบัติการรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอน สามารถสืบค้นข้อมูลที่ต้องการได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สามารถนำข้อมูลที่เป็นผลจากการวิเคราะห์ไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจของผู้บริหารในการปฎิบัติงานใด ๆ เปรียบเสมือนเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริหาร ภูมิศาสตร์ (Geographic) มาจากรากศัพท์ Geo หมายถึงโลก และ Graphic หมายถึงงานเขียน ดังนั้นการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับโลกจะอยู่ในรูปแผนที่ ในอดีตการเก็บรวบรวมข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบกระดาษ ดังนั้นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จึงเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้รวบรวม จัดเก็บ ค้นหา แสดงผล และวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เป็นระบบที่จัดเก็บข้อมูลเชิงพื้นที่ให้อยู่ในรูปแผนที่เชิงเลข (Digital Map)
7. ข้อมูลจาก www.bhu.go.th : GIS เป็นระบบข้อมูลที่ประกอบด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานภาระหน้าที่ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลเหล่านั้น มาวิเคราะห์ และนำผลของการวิเคราะห์มาใช้ประโยชน์ในงานนั้นๆได้ ตัวอย่างเช่น นักวางแผนด้านผังเมือง อาศัยข้อมูลเชิงแผนที่ ข้อมูลด้านการพัฒนาที่ดิน ข้อมูลด้านการวางผังเมือง มาวิเคราะห์ร่วมกัน ให้ได้ผลการวิเคราะห์ ที่นำไปใช้ประโยชน์ในการวางผังเมืองได้ หรือตัวอย่างเช่น นักระบาดวิทยา อาศัยข้อมูลเชิงแผนที่ ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ ข้อมูลป่า แหล่งน้ำ ข้อมูลการป่วยเจ็บ ข้อมูลความหนาแน่นของประชากร ฯลฯ มาวิเคราะห์ร่วมกัน ให้เกิดผลการวิเคราะห์โรคในแต่ละพื้นที่ สามารถทำนายการเกิดโรคได้ และ ใช้เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจ
8. ข้อมูลจาก www.stschool.ac.th. : GIS เป็นระบบที่ใช้ Computer เก็บรวมรวมประมวลผล และแจกจ่ายข้อมูลข่าวสารเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ และการควบคุมภายในองค์กรข่าวสาร (Information) ข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลหรือปรุงแต่ง เพื่อให้มีความหมายเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ข้อมูล (Data) ข้อเท็จจริงที่ได้รับการรวบรวมหรือป้อนเข้าสู่ระบบกระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศ ประกอบด้วยกิจกรรม 3 ชนิด (ต้องเก็บข้อมูลให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น) การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ (Input) การประมวลผล (Process) การนำเสนอผลลัพธ์ (Output) ระบบสารสนเทศบางระบบ ต้องการตอบสนอง (Feedback) ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล แล้วถูกส่งกลับไปยังส่วนการนำเข้าข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง สารสนเทศที่เป็น Output ของระบบหนึ่ง อาจเป็น Input ของอีกระบบหนึ่งได้ ระบบสารสนเทศถือว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร (Organization) องค์กรบางแห่งในปัจจุบันสามารถดำเนินธุรกิจได้ก็เพราะมีระบบสารสนเทศที่ดี
9. สำนักงานศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรของชุมชน : GIS คือ ระบบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่และเชื่อมโยงและผสมผสานข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย ที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล สามารถดัดแปลงแก้ไขและวิเคราะห์ และแสดงผลการวิเคราะห์และการนำเสนอข้อมูลเพื่อให้เห็นนิมิตและความสัมพันธ์ด้านพื้นที่ของข้อมูล ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดความเข้าใจปัญหา และประกอบการตัดสินใจในปัญหาเกี่ยวกับการวางแผนการใช้ทรัพยากรเชิงพื้นที่
10. Federal Interagency Coordinating Committee (1988) : GIS เป็น ระบบของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อการจัดเก็บ การรักษา การจัดทำ การวิเคราะห์ การทำแบบจำลอง และการแสดงข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อนแก้ปัญหาการวางแผนที่ซับซ้อน และปัญหาในการจัดการ
อ้างอิง: http://203.155.220.230/gis_online/gis/basic_gis/Intro_gis_n.html
          : http://www.eduzones.com/knowledge-2-4-2064.html

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำสอนจากท่านพุทธทาสภิกขุ

"สุญญตา พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้หมายความว่าสูญเปล่า....แต่หมมายถึง โลกว่าง หรือทุกสิ่งทุกอย่างว่าง
เพราะไม่มีอะไรเป็นตัวเรา หรือเป็นของเรา... ประการต่อมาคือ จิตว่าง
จิตที่ไม่ได้สำคัญมั่นหมายยึดถืออะไรว่าเป็นตัวเรา หรือเป็นของเรา"

"เราทุกคนจะต้องเป็นผู้รุ่งเรืองอยู่ด้วยความสว่างไสวแจ่มแจ้งของแสงสว่าง คือ ปัญญา"

"เมื่อทั้งกายและจิตมีความมั่นคงแล้ว ทุกอย่างที่กระทำก็จะมีความมั่นคง
บ้านเมืองก็จะมีความมั่นคง ประเทศชาติก็จะมีความมั่นคง
โลกทั้งโลกก็จะมีความมั่นคง เพราะบุคคลประพฤติธรรม"

"เรียนธรรมะในป่ามีนิพพานเป็นอารมณ์
เรียนธรรมะในเมืองมีกิน-กาม-เกียรติ เป็นอารมณ์"

"เหนือความหมายแห่งของคู่ทุกชนิดคืออิสระ"

"จงดำเนินชีวิตของท่าน ไปบนหนทาง ที่ส่องสว่างอยู่ด้วยแสงแห่งพระธรรม"

"การเป็นเกลอกับธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสนใจ"

"ต้นไม้พูดได้และแสดงธรรมอยู่เสมอ แต่คนไม่ได้ยินเอง, มันพูดเรื่องหน้าที่ ไตรลักษณ์
เรื่องความสงบ และพูดว่ามนุษย์อย่าบ้ากันเกินไปนักโว้ย แต่มนุษย์ไม่ได้ยินเอาเสียเลย"

"สุขแท้เกิดจากความสงบเท่านั้น ส่วนที่เกิดจากความวุ่นวายนั้น
เป็นเพียงความสนุก หาใช่ความสุขไม่"

"โลกทุกวันนี้ มีอะไรๆมากเกินไป ในทางที่จะผูกพันชีวิตนี้ ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจ
ของสิ่งที่บีบคั้นเผาลน เผลอไปเพียงนิดเดียว ก็จักลื่นไถลไปในกองเพลิง
ชนิดที่ยากที่จะถอนตัวออกมาได้ และถึงกับตายอยู่ในกองเพลิงนั้นเป็นที่สุด"

"ต้องเวียนว่ายเกิดตายตามบุญบาป  เมื่อไรทราบธรรมแท้ไม่แปรผัน
ไม่ต้องเกิดไม่ต้องตายสบายครัน  มีเท่านั้นใครหาพบจบกันเอย"

"เปิด-เปิด ปาก สนทนาพูดจาธรรม  วันยังค่ำอย่าพูดเรื่องเหลวไหล
พูดแต่เรื่องดับทุกข์โดยสัจจนัย   ไม่เท่าไรเราทั้งโลกพ้นโศกแล"

"ปิด-ปิด ตา อย่าสอดส่ายให้เกินเหตุ  บางประเภทแกล้งทำบอดยอดกุศล
            มัวสอดรู้สอดเห็นจะเป็นคน  เอาไฟลนตนไปจนไหม้พอง"

"ไม่ต้องการอะไร  ก็สบายใจเหลือ"

"ถ้าอยู่ในโลก อยู่ใต้โลก ก็ย่อมถูกเวลาครอบงำหรือกัดกิน
แต่ถ้าอยู่เหนือโลกก็เป็นฝ่ายที่กัดกินเวลา เวลาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้"

"อันการงานคือคุณค่าของมนุษย์
ของมีเกียรติสูงสุดอย่าสงสัย
ถ้าสนุกด้วยการงานเบิกบานใจ
ไม่เท่าไรได้รู้ธรรมฉ่ำซึ้งจริง"

"การเห็นธรรม ไม่อาจจะเห็นได้ด้วยการคำนวณตามเหตุผล
แต่ต้องเห็นแจ้งด้วยความรู้สึกในใจที่แท้จริง คือ เห็นด้วยใจจริง"

        ข้อมูลจากหนังสือ: พิศเจริญ


วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

รักษาสุขภาพ

                                                        
โรคอุจจาระร่วงติดเชื้ออีโคไล O157:H7
การวินิจฉัยโรคติดเชื้ออีโคไล O157:H7 ใช้วิธีตรวจอุจจาระเป็นสำคัญ การตรวจอุจจาระต้องส่งเพาะเชื้อโดยใช้อาหารวุ้นสำหรับเพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดพิเศษ เรียกว่า ซอร์บิทอลแมคคองกีอะการ์ ดังนั้นในกรณีที่สงสัยว่าสาเหตุของอาการอุจจาระร่วงเกิดจากเชื้ออีโคไล O157:H7 ต้องระบุให้ทางห้องปฏิบัติการทราบด้วยทุกครั้ง ในทางปฎิบัติจะสงสัยโรคดังกล่าวเมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการท้องเสียอุจจาระร่วงอย่างรุนแรงและอุจจาระมีลักษณะเลือดปน ร่วมกับมีหลักฐานทางระบาดวิทยาว่าเกิดการระบาดของเชื้ออีโคไล O157:H7 ในท้องถิ่นนั้น
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้ออีโคไล O157:H7 และมีอาการอุจจาระร่วงเพียงอย่างเดียว มักจะหายได้เองภายใน 5-10 วัน แม้ว่าจะได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือไม่ก็ตาม มีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่าการให้ยาปฏิชีวนะไม่ได้ทำให้ระยะเวลาการเป็นโรคติดเชื้ออีโคไล O157:H7 สั้นลง บางครั้งอาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตด้วยซ้ำ สำหรับการใช้ยาแก้ท้องเสีย เช่น อิโมเดียมหรือโลโมติล ในกรณีนี้ถือว่าห้ามใช้เด็ดขาด จะทำให้การติดเชื้อทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้อีกหลายประการ
สำหรับปัญหาแทรกซ้อนทางไตที่เรียกว่า กลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย (hemolytic uremic syndrome) ถือว่าเป็นภาวะที่อันตรายอย่างยิ่ง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ
หากเกิดขึ้นส่วนใหญ่ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลรักษาในหออภิบาลผู้ป่วยหนักไอซียู ต้องได้รับการให้เลือดจำนวนมาก และต้องได้รับการรักษาภาวะไตวายด้วยการล้างไต หากผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดีในไอซียู อัตราการตายจะลดลงได้มากเหลือเพียงร้อยละ 3-5

ผู้ป่วยอุจจาระร่วงจากการติดเชื้ออีโคไล O157:H7 ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตมักจะหายเป็นปกติได้ ส่วนผู้ที่เกิดภาวะกลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงและไตวายจะมีปัญหาการทำหน้าที่ของไตเสื่อมเป็นเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ บางรายอาจต้องได้รับการล้างไตไปอีกสักระยะหนึ่งกว่าอาการต่างๆ จะทุเลา ร้อยละ 8 ของผู้ป่วยที่เกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตจะมีปัญหาความดันโลหิตสูง ชัก ตาบอด หรืออัมพาต ตามมาในภายหลังได้
เชื้ออีโคไล O157:H7 คืออะไร
การป้องกันโรคระบาดจากการติดเชื้ออีโคไล O157:H7 ที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของสุขอนามัยในการประกอบอาหารและรับประทานอาหาร เน้นการบริโภคเนื้อสุกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อบด
นอกจากนี้การล้างมือบ่อยๆ ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อได้มาก และประการสุดท้ายควรระมัดระวังการติดเชื้อจากการบริโภคผลิตภัณฑ์นมวัวที่อาจปนเปื้อนเชื้อได้



เชื้ออีโคไล O157:H7 เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ้งที่ก่อโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง การระบาดของเชื้อนี้แต่ละปีมีผู้ติดเชื้อนับแสนคน อัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 1 อาการสำคัญคือ ท้องเสียชนิดอุจจาระมีเลือดปน บางรายมีอาการอุจจาระเป็นมูกเลือด และที่สำคัญคือ โรคนี้ทำให้เกิดภาวะไตวายร่วมด้วยได้บ่อยมาก โดยทั่วไปคนติดเชื้อโรคนี้จากการรับระทานอาหารที่ไม่สุก ส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว พบมีรายงานการระบาดของเชื้อ เชื้ออีโคไล O157:H7 จากการดื่มนมวัวที่ดิบ การเล่นน้ำหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคชนิดนี้ และพบว่าเชื้ออีโคไล O157:H7 สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ รวมทั้งการระบาดในครอบครัวและสถานเลี้ยงเด็กอ่อน
เชื้ออีโคไลเป็นเชื้อแบคทีเรียมีหลายร้อยสายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงเท่าใดนัก และเป็นจุลชีพท้องถิ่นอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารส่วนลำไส้ โดยไม่ทำให้เกิดโรคแต่อย่างใด ส่วนเชื้ออีโคไล O157:H7 มีความสามารถในการสร้างโปรตีนที่เป็นพิษ ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงกับเสียชีวิตได้ การระบาดของเชื้ออีโคไล O157:H7 ครั้งแรกในปี 1982 จากการสืบสวนโรคด้วยวิธีการทางระบาดวิทยา พบว่าเกิดจากเนื้อที่นำมาทำแฮมเบอเกอร์ติดเชื้ออีโคไล O157:H7 หลังจากนั้นพบการระบาดใหญ่อีกหลายครั้งและพบการระบาดในท้องถิ่นแทบทุกปี ในการศึกษาการระบาดของโรคนี้จำเป็นต้องระบุสายพันธุ์ให้ชัดเจน เนื่องจากเชื้ออีโคไลชนิดอื่นไม่ก่อให้เกิดโรครุนแรงในลักษณะนี้
การแพร่กระจายของเชื้ออีโคไล O157:H7 พบได้ทั่วไปในฟาร์มปศุสัตว์ และสามารถตรวจพบเชื้อในลำไส้ของวัวควายที่มีสุขภาพดี ไม่เป็นสัตว์ป่วยแต่อย่างใด เนื้อสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อบดมีโอกาสปนเปื้อนเชื้ออีโคไล O157:H7 ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นการปนเปื้อนในฟาร์ม การปนเปื้อนจากกระบวนการผลิต แม้กระทั่งการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์นม เมื่อคนกินเนื้อที่ปนเปื้อนเชื้อและไม่ได้ปรุงอาหารให้สุกจึงได้รับเชื้อได้ง่าย เนื้อที่ไม่สุกและปนเปื้อนเชื้อมักจะดูไม่ออกจากลักษณะภายนอกและไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด จากการศึกษาวิจัยทางจุลชีววิทยาพบว่าการที่ร่างกายได้รับเชื้ออีโคไล O157:H7 เพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อให้เกิดโรคได้
เชื้ออีโคไล O157:H7 ยังอาจพบได้ในผลิตภัณฑ์นม น้ำผลไม้ ผักสดบางชนิด ซาลามี่ และพบว่าเกิดการะบาดจากแหล่งน้ำที่มีเชื้อโรคนี้อยู่อีกด้วย เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในอุจจาระของผู้ป่วยยังสามารถแพร่เชื้อต่อไปอีกได้ ดังนั้นการรักษาสุขอนามัยที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการระบาดของโรคนี้ สิ่งสำคัญที่ควรเน้นเสมอคือ เรื่องของการล้างมือ หลักฐานทางวิชาการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเพียงการล้างมือเท่านั้น ก็สามารถลดการกระจายของเชื้ออีโคไล O157:H7 ได้ สำหรับบ้านที่มีเด็กอ่อนต้องให้การดูแลเกี่ยวกับการขับถ่ายของเด็กด้วย เนื่องจากพบว่าเป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งของการระบาด เด็กเล็กสามารถแพร่เชื้อได้นานถึงสองสัปดาห์ และในเด็กโตพบว่าหากได้รับเชื้อแล้วมักจะเกิดอาการเจ็บป่วยเป็นโรคแทบทุกราย
เชื้ออีโคไล O157:H7 ก่อให้เกิดโรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง ในบางรายอาการอาจไม่รุนแรงมากและหายได้ภายในเจ็ดวันสิบวัน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยน้อยรายที่จะถ่ายอุจจาระปกติ โรคอุจจาระร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อนี้มักจะไม่มีไข้ แต่ผู้ป่วยจะปวดท้องมาก ถึงขั้นปวดบิดได้ ในเด็กอ่อนอายุน้อย 5 ปีและในผู้สูงอายุ มักจะเกิดโรคแทรกซ้อน เม็ดเลือดแดงถูกทำลายและทำให้ไตวาย เรียกชื่อว่า กลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย (hemolytic uremic syndrome) ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบได้ร้อยละ 2-7 ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคนี้ และเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันในเด็ก การติดเชื้ออีโคไล O157:H7 จึงมีความสำคัญและเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่ควรให้ความสนใจอย่างหนึ่ง
ที่มา:www.bangkokhealth.com

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จันทรุปราคา

                    จันทรุปราคาเต็มดวงและจันทรุปราคาบังดาวฤกษ์

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ สดร.  ร่วมกับเครือข่ายดาราศาสตร์ฉะเชิงเทราและสงขลา แถลงข่าวเชิญชวนคนไทยรอชม 2 ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า คือ "จันทรุปราคาเต็มดวงและจันทรุปราคาบังดาวฤกษ์" หลังเที่ยงคืนวันที่ 15 มิถุนายน หรือเช้ามืดของวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญและหาดูได้ยากมาก เพราะจันทรุปราคาในครั้งนี้ เป็นจันทรุปราคาที่เต็มดวงในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว

        
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ จันทรุปราคา จะกินเวลานานถึง 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือยาวนานถึง 100 นาที นับว่าเป็นเวลาที่นานที่สุดตั้งแต่เกิดจันทรุปราคามา โดยจะเริ่มต้นในเวลาประมาณ 00.25 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน ดวงจันทร์เริ่มแตะเงามัว แต่เราจะสังเกตไม่พบการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งดวงจันทร์เข้าไปในเงามัวลึกมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะเริ่มสังเกตว่าพื้นผิวดวงจันทร์โดยรวมดูหมองคล้ำลงตั้งแต่เวลา ประมาณ 01.00 น.
         และในช่วงเวลาที่เกิด จันทรุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์จะถูกเงาโลกบดบังหมดทั้งดวง แต่ดวงจันทร์ก็ไม่ได้มืดมิด ยังสามารถมองเห็นดวงจันทร์มีสีน้ำตาล ส้ม หรือแดง และอาจมีสีฟ้าปะปนอยู่ได้เล็กน้อย

         จากนั้น ในเวลา 03.13 น. ดวงจันทร์จะเข้าใกล้ศูนย์กลางเงาโลกมากที่สุด จึงคาดว่าเป็นเวลาที่ดวงจันทร์มืดคล้ำที่สุด (หากท้องฟ้าเปิดตลอดปรากฏการณ์) และในเวลา 04:03 น. จะเป็นเวลาที่จันทรุปราคาเต็มดวงสิ้นสุดลง

ขั้นตอนการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง 16 มิถุนายน 2554
          00.25 น. : ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก...ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง

          01.23 น. : เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน...ดวงจันทร์เริ่มแหว่ง   

          02.22 น. : เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง...ดวงจันทร์เข้าสู่เงามืดทั้งดวง

          03.13 น. : กึ่งกลางของปรากฏการณ์...ดวงจันทร์เข้าไปในเงาลึกที่สุด

          04.03 น. : สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง...ดวงจันทร์เริ่มออกจากเงามืด

          05.02 น. : สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน...ดวงจันทร์ทั้งดวงออกจากเงามืด

          06.01 น. : ดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลก 
ปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ดังกล่าว สามารถชมได้ด้วยตาเปล่าทั่วทั้งประเทศ ยกเว้นเพียงภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป โดยให้สังเกตทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นดวงจันทร์สีแดงอิฐอยู่สูงจากเส้นขอบฟ้าประมาณ 30 องศา และถ้าหากท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆบัง และไม่มีแสงไฟรบกวน ก็จะมีโอกาสเห็นทางช้างเผือกในขณะที่ดวงจันทร์ถูกเงาของโลกบังทั้งดวงอีกด้วย

         ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า นอกจากคนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงแล้ว ยังจะได้ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาบังดาวฤกษ์ ในเวลาใกล้เคียงกันอีกด้วย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าไปบดบังดาวฤกษ์ที่มีชื่อว่า 51 Ophiuchi(โอฟีอุชชี)  ซึงเป็นดาวฤกษ์สีขาวที่อยู่นอกระบบสุริยะ และมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก โดยดาวฤกษ์ดังกล่าว อยู่ไกลจากโลกมากถึง 446.35 ปีแสง ทั้งนี้เราสามารถมองเห็นดาวดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชชี ได้ในเวลาประมาณ 02.08 น.  โดยจะเริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐ และโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาในเวลา 02.12 น.

          ดร.ศรัณย์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่พลาดชม  2 ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า "จันทรุปราคาเต็มดวงและจันทรุปราคาบังดาวฤกษ์" นั้น สามารถรอชมปรากฏการณ์บนท้องฟ้าส่งท้ายปีได้อีกครั้ง ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

         ส่วนผู้ที่รอชมปรากฏการณ์ดังกล่าว ทาง สดร. ได้ร่วมกับเครือข่ายทางดาราศาสตร์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และสงขลา ตั้งจุดสังเกตที่ จ. เชียงใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สงขลา อีกทั้งมีการถ่ายทอดสดภาพปรากฏการณ์จากทั้งสามแห่ง ผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบัน ที่ www.narit.or.th ด้วย

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Database Mangement System

ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) หรือที่เรียกว่า ดีบีเอ็มเอส (DBMS) เป็นกลุ่มโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในระบบติดต่อระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล เพื่อจัดการและควบคุมความถูกต้อง ความซ้ำซ้อน และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่างๆ ภายในฐานข้อมูล ซึ่งต่างจากระบบแฟ้มข้อมูลที่หน้าที่เหล่านี้จะเป็นหน้าที่ของโปรแกรมเมอร์ ในการติดต่อกับข้อมูลในฐานข้อมูลไม่ว่าจะด้วยการใช้คำสั่งในกลุ่มดีเอ็มแอล (DML) หรือ ดีดีแอล (DDL) หรือจะด้วยโปรแกรมต่างๆ ทุกคำสั่งที่ใช้กระทำกับข้อมูลจะถูกดีบีเอ็มเอสนำมาแปล (คอมไพล์) เป็นการปฏิบัติการ (Operation) ต่างๆ ภายใต้คำสั่งนั้นๆ เพื่อนำไปกระทำกับตัวข้อมูลภายในฐานข้อมูลต่อไป สำหรับส่วนการทำงานตางๆ ภายในดีบีเอ็มเอสที่ทำหน้าที่แปลคำสั่งไปเป็นการปฏิบัติการต่างๆ กับข้อมูลนั้น ประกอบด้วยส่วนการปฏิบัติการดังนี้

หน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูล

  • แปลงคำสั่งที่ใช้จัดการกับข้อมูลภายในฐานข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบที่ฐานข้อมูลเข้าใจ
  • นำคำสั่งต่าง ๆ ซึ่งได้รับการแปลแล้ว ไปสั่งให้ฐานข้อมูลทำงาน เช่น การเรียกใช้ (Retrieve) จัดเก็บ (Update) ลบ (Delete) เพิ่มข้อมูล (Add) เป็นต้น
  • ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลภายในฐานข้อมูล โดยจะคอยตรวจสอบว่าคำสั่งใดที่สามารถทำงานได้ และคำสั่งใดที่ไม่สามารถทำงานได้
  • รักษาความสัมพันธ์ของข้อมูลภายในฐานข้อมูลให้มีความถูกต้องอยู่เสมอ
  • เก็บรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภายในฐานข้อมูลไว้ในพจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary) ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้มักจะถูกเรียกว่า เมทาดาตา (MetaData) ซึ่งหมายถึง "ข้อมูลของข้อมูล"
  • ควบคุมให้ฐานข้อมูลทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
  • ควบคุมสถานะภาพของคอมพิวเตอร์ในการแปลสถาพฐานข้อมูล

อ้างอิง

วิจารณ์เพลง


เพลงก่อนมะลิบาน
มันเป็นประจำตรงสี่แยกนี้ ที่รถมันติดเหลือเกิน
แต่ใครๆก็คงต้องผ่าน บังเอิญวันนั้นได้เหลือบไปเห็น
แววตาของเด็กน้อยนั่งมองเหม่อ อยู่ริมข้างฟุตบาท

เลยสะกิดใจ ค่อนข้างห่วงเขาเป็นอะไร จึงได้ทักไป
ให้ช่วยไหม ได้ฟังเขาตอบ น่าแปลกใจ

ก็อยากให้ไฟแดงนานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไปเขียวบ่อย ก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อมะลิบานๆ

และทุกหนนี้ต้องผ่านทางนั้น ที่รถมันติดเหลือเกิน
แต่ตัวฉันไม่เคยจะเบื่อ เพราะฉันนึกถึงคำตอบเด็กน้อย
ที่คอยเตือนใจฉันให้รู้สึก ให้นึกถึงคนอื่น

ลองเอาใจเขา เข้ามาใส่หัวใจสักที โลกในแง่ดี
มีความหมาย ให้ฉันได้เปลี่ยน เปลี่ยนความคิด

ก็อยากให้ไฟแดงนานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไปเขียวบ่อย ก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อมะลิบานๆ

ก็อยากให้ไฟแดงนานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไปเขียวบ่อย ก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อมะลิบานๆ

ก็อยากให้ไฟแดงนานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไปเขียวบ่อย ก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อมะลิบานๆ


วิจารณ์บทเพลงนี้ : ก่อนมะลิบาน
เนื้อหาของบทเพลงมีความหมายดี  ให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตที่บางครั้งคนเราอาจมองข้ามไป สื่อความหมายให้รู้ว่า  การนึกถึงคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรานั้นสำคัญ การมองโลกในแง่ดี  ทำให้เรื่องการจราจรที่ติดขัดไม่จำเป็นที่เราต้องโมโหหรืออารมณ์ไม่ดี  ในการเดินทางของเรานั้นอาจล่าช้า แต่ในอีกวิถีชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งก็สามารถทำให้พวกเค้ามีรอยยิ้มได้ ดังการขายพวงมาลัยได้ของเด็กน้อยตอนรถติดไฟแดง หากคนในสังคมคิดได้ดังเนื้อเพลงเราก็คงเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น

Spatial data

Spatial Data ข้อมูลเชิงพื้นที่
Spatial Distribution:
 การกระจายเชิงพื้นที่ คือ การกระจายตัวหรือการกระจุกตัวในพื้นที่นั้นๆอาจพิจารณาจาก จำนวน ขนาด ความหนาแน่น ระยะทาง รูปแบบ เช่น การกระจายตัวของฝูงสัตว์แต่ละชนิดในเขตอุทยาน
 
 

Spatial Differentiation:
ความแตกต่างในเชิงพื้นที่ คือ ในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน ทั้งลักษณะเฉพาะทางกายภาพและชีวภาพที่ไม่เหมือนกัน เช่น ลักษณะพืชพรรณทางธรรมชาติในแต่ละภูมิภาคของโลก

Spatial Diffusion:
การแพร่กระจายเชิงพื้นที่ คือ การแพร่กระจายจากจุดกำเนิดไปยังบริเวณอื่นๆ เช่น การแพร่กระจายของโรคระบาดจากทวีปหนึ่งไปยังทวีปหนึ่ง
 
Spatial Interaction:
 ปฏิสัมพันธ์ทางพื้นที่ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ต่างๆ ในสถานที่ เช่น สภาพดินเค็มในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Spatial Temporal:
ช่วงเวลาในเชิงพื้นที่ คือ ช่วงเวลาในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปในช่วงของการแบ่งเขตเวลา กิจกรรมต่างๆก็จะต่างกันออกไปตามช่วงเวลาของแต่ละพื้นที่ เช่น ช่วงเวลาหนึ่งในปี พ.ศ. 2540 เกิดวิกฤตการณ์ฟองสบู่แตกในประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

December 30th, 2009
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System นิยมย่อว่า GIS) คือ กระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ (spatial data) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยการกำหนดข้อมูลเชิงบรรยาย (attribute data) และสารสนเทศ เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ ที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ เช่น ตำแหน่ง ละติจูด ลองจิจูด ในรูปของ ตารางข้อมูล และ ฐานข้อมูล
ระบบ GIS ประกอบไปด้วยชุดของเครื่องมือที่มีความสามารถในการเก็บรวบรวม รักษาและการค้นข้อมูล เพื่อจัดเตรียม ปรับแต่ง วิเคราะห์และการแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ซึ่งรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งหลาย จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS ให้สื่อความหมายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับช่วงเวลาได้ ใช้เป็นเช่น
* การแพร่ขยายของโรคระบาด
* การเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน
* การบุกรุกทำลาย
* การเปลี่ยนแปลงของการใช้พื้นที่
ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปล
 สื่อความหมาย และนำไปใช้งานได้ง่าย
ข้อมูลใน GIS ทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงบรรยาย สามารถอ้างอิงถึงตำแหน่งที่มีอยู่จริงบนพื้นโลกได้โดยอาศัยระบบพิกัดทาง ภูมิศาสตร์ (geocode) ซึ่งจะสามารถอ้างอิงได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ข้อมูลใน GIS ที่อ้างอิงกับพื้นผิวโลกโดยตรง หมายถึง ข้อมูลที่มีค่าพิกัดหรือมีตำแหน่งจริงบนพื้นโลกหรือในแผนที่ เช่น ตำแหน่งอาคาร ถนน ฯลฯ สำหรับข้อมูล GIS ที่จะอ้างอิงกับข้อมูลบนพื้นโลกได้โดยทางอ้อมได้แก่ ข้อมูลของบ้าน (รวมถึงบ้านเลขที่ ซอย เขต แขวง จังหวัด และรหัสไปรษณีย์) โดยจากข้อมูลที่อยู่ เราสามารถทราบได้ว่าบ้านหลังนี้มีตำแหน่งอยู่ ณ ที่ใดบนพื้นโลก เนื่องจากบ้านทุกหลังจะมีที่อยู่ไม่ซ้ำกัน

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

           ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิต
1. ไม่ว่าคุณจะร่ำรวย หรือ ยากจน คุณก็ต้องการคนที่พูดดีกับคุณ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะยากจน หรือ ร่ำรวยก็ต้องการ     การพูดที่ดีเช่นเดียวกัน
2.  การจะขึ้นที่สูงให้ได้เหนื่อยน้อยที่สุด คือ การเดินขึ้นไปกับปัจจุบันโดยไม่นึกถึงยอดเขา
3.  การให้อภัยย่อมดีกว่าการจองเวณเสมอ
4.  ไปถึงก่อนเวลา 15 นาที ดีกว่าไปสาย 15 นาทีแน่นอน
5.  ผู้หญิงสวยและหนุ่มหล่อไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนดี คนหน้าตาซื่อ ๆ อาจจะไม่ใช่คนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม จงใช้ เวลาบวกกับความรู้สึกพิจารณาคน มากกว่าการใช้อารมณ์และความรู้สึก
6.  ไม่จำเป็นเสมอไปที่ลูกชิ้นหนึ่งไม้จะกินได้คนเดียว คนที่มีน้ำใจย่อมรู้จักให้มากกว่ารับ
7.  เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ได้บอกว่าคุณเป็นคนดี มันบอกได้แค่ว่าคุณแต่งตัวดีเท่านั้น
8.  แก้วน้ำที่เต็มไม่อาจรับน้ำเพิ่มได้ คนที่ไม่รู้จักเปิดใจก็ไม่อาจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน
9.  แม้คนที่คิดการใหญ่จะต้องมองไกล แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องละเลยสิ่งที่คุณเคยเป็นและตัวตนของคุณ

10.  แม้นกจะบินสูงและมองได้กว้างไกล ก็ไม่ได้แปลว่าเมื่อมองใกล้แล้วจะดีกว่าสัตว์ใด
11.  เรื่องเศร้าในวันนี้ จะเป็นพลังและกำลังให้กับเราในวันที่เราสามารถเดินผ่านมัน
12.  ความรู้ไม่ใช่หินต้องแบกหามมีเยอะเท่าไรยิ่งดี
13.  ความทุกข์ไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิต จะมีชีวิตเพื่อแบกทุกข์ไปเพื่ออะไร
14.  น้ำตามีไว้สำหรับคนที่อ่อนแอเท่านั้น
15.  มันไม่สำคัญว่าเราจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่มันอยู่ที่ว่าเราได้ทำเต็มที่แล้วหรือยัง


          "  เคารพสิ่งใดย่อมได้รับแต่สิ่งดีดีจากสิ่งนั้น  "